การทำความเข้าใจและการจัดการข้อขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพ
ความขัดแย้งหมายถึงสถานการณ์ที่บุคคลหรือกลุ่มสองคนขึ้นไปมีความคิดเห็น มุมมอง หรือความเชื่อที่แตกต่างกันเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง อาจเกี่ยวข้องกับความแตกต่างในด้านค่านิยม เป้าหมาย การตีความ หรือข้อเท็จจริง ความขัดแย้งอาจเกิดขึ้นในบริบทต่างๆ เช่น ความสัมพันธ์ส่วนตัว สถานที่ทำงาน การเมือง หรือประเด็นทางสังคม
2 ความขัดแย้งมีกี่ประเภท ?
มีความขัดแย้งหลายประเภท รวมไปถึง:
a ความขัดแย้งบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง: สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมีการตีความข้อเท็จจริงหรือหลักฐานที่แตกต่างกัน ความขัดแย้งตามค่านิยม: สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อผู้คนมีค่านิยม ความเชื่อ หรือโลกทัศน์ที่แตกต่างกันซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของพวกเขา
c ความขัดแย้งตามเป้าหมาย: สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อบุคคลหรือกลุ่มมีวัตถุประสงค์หรือลำดับความสำคัญที่แตกต่างกัน ความขัดแย้งตามมุมมอง: สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อผู้คนมองปัญหาเดียวกันจากมุมหรือมุมมองที่ต่างกัน ความขัดแย้งตามอัตลักษณ์: สิ่งเหล่านี้มีรากฐานมาจากความแตกต่างที่เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์ เช่น เชื้อชาติ เพศ ศาสนา หรือภูมิหลังทางวัฒนธรรม
3 สาเหตุทั่วไปของความขัดแย้งคืออะไร ?
สาเหตุทั่วไปของความขัดแย้งได้แก่:
a การสื่อสารที่ผิดพลาดหรือความเข้าใจผิดs
b. ภูมิหลัง ประสบการณ์ หรือมุมมองที่แตกต่างกัน ค่านิยมหรือความเชื่อที่ขัดแย้งกัน ขาดความไว้วางใจหรือความฉลาดทางอารมณ์ ความไม่สมดุลของพลังงานหรืออคติ ข้อมูลไม่เพียงพอหรือข้อมูลที่ผิด เป้าหมายหรือลำดับความสำคัญที่แตกต่างกัน
4. วิธีจัดการกับข้อขัดแย้งอย่างมีประสิทธิผล ?
การจัดการข้อขัดแย้งอย่างมีประสิทธิผลต้องใช้ทักษะ ความรู้ และความคิดผสมผสานกัน เคล็ดลับบางประการมีดังนี้:
a จงสงบและสงบสติอารมณ์ ตั้งใจฟังอย่างกระตือรือร้นและมีความเห็นอกเห็นใจ หลีกเลี่ยงการสันนิษฐานและลักษณะทั่วไป มุ่งความสนใจไปที่ประเด็น ไม่ใช่ตัวบุคคล แสวงหาจุดร่วมและพยายามค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เต็มใจที่จะประนีประนอมและเจรจาต่อรอง แสดงความเคารพและเปิดกว้างต่อมุมมองต่างๆ เรียนรู้จากผู้อื่นและเต็มใจที่จะเปลี่ยนใจหากได้รับข้อมูลหรือข้อโต้แย้งใหม่ๆ



