การทำความเข้าใจและการเอาชนะการแบ่งแยกตนเองเพื่อความสามัคคีและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น
การแบ่งแยกตนเองเป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่แต่ละคนประสบกับความขัดแย้งหรือความตึงเครียดระหว่างสองแง่มุมขึ้นไปของอัตลักษณ์ของตนเอง ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกแตกเป็นเสี่ยงและขาดการเชื่อมต่อ สิ่งนี้สามารถแสดงออกมาได้หลายวิธี เช่น:
1 ความขัดแย้งภายใน: บุคคลอาจรู้สึกขาดระหว่างค่านิยม ความเชื่อ ความปรารถนา หรือเป้าหมายที่แตกต่างกัน นำไปสู่ความรู้สึกสับสนและสับสนภายใน
2 ความขัดแย้งในบทบาท: บุคคลอาจประสบกับความต้องการหรือความคาดหวังที่ขัดแย้งกันจากบทบาทที่แตกต่างกันที่พวกเขาปฏิบัติตาม เช่น การเป็นพ่อแม่ พนักงาน หรือเพื่อน
3 การกระจายตัวของอัตลักษณ์: บุคคลอาจรู้สึกว่าส่วนต่างๆ ของอัตลักษณ์ของตนเข้ากันไม่ได้หรือแยกจากกัน นำไปสู่ความรู้สึกขาดการเชื่อมต่อและการกระจายตัว
4 การบ่อนทำลายตนเอง: บุคคลอาจบ่อนทำลายความพยายามหรือเป้าหมายของตนเองโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากความเชื่อหรือความกลัวที่ขัดแย้งกัน นำไปสู่ความรู้สึกสงสัยในตนเองและความคับข้องใจ
5 ด้านที่ถูกปฏิเสธ: คนๆ หนึ่งอาจปฏิเสธหรืออดกลั้นบางแง่มุมของตัวเอง ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกไม่สมบูรณ์หรือขาดความสมบูรณ์ การแบ่งแยกตนเองอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ประสบการณ์ในวัยเด็ก ความคาดหวังทางวัฒนธรรมหรือสังคม ความเชื่อส่วนบุคคล และบาดแผลทางจิตใจ . นอกจากนี้ยังอาจเป็นผลมาจากความกดดันที่ต้องปฏิบัติตามบรรทัดฐานหรือมาตรฐานบางอย่าง ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกขาดการเชื่อมต่อจากตัวตนที่แท้จริงของตนเอง การเอาชนะการแบ่งแยกตนเองต้องอาศัยการตระหนักรู้ในตนเอง การยอมรับตนเอง และการบูรณาการทุกแง่มุมของอัตลักษณ์ของตน สิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับ:
1 การรับรู้และยอมรับส่วนที่ขัดแย้งของตัวเอง
2. การทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของการแบ่งแยกตนเอง3. การบูรณาการแง่มุมที่ถูกปฏิเสธหรือปฏิเสธเข้าไปในความรู้สึกของตนเอง
4 พัฒนาความสัมพันธ์ที่มีความเห็นอกเห็นใจและยอมรับกับตนเองมากขึ้น 5. การฝึกสติ การดูแลตัวเอง และความเห็นอกเห็นใจในตนเอง เพื่อลดความขัดแย้งภายในและส่งเสริมการเยียวยา โดยการจัดการกับการแบ่งแยกตนเอง แต่ละบุคคลสามารถสัมผัสกับความสามัคคี ความสมบูรณ์ และการเติมเต็มในชีวิตมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่สุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น



