mobile theme mode icon
theme mode light icon theme mode dark icon
Random Question สุ่ม
speech play
speech pause
speech stop

ความสำคัญของอนุสาวรีย์ในการรำลึกถึงผู้ตาย

อนุสาวรีย์เป็นโครงสร้างที่ระลึกถึงผู้เสียชีวิต แต่ไม่มีซากศพของคนเหล่านั้น อาจเป็นรูปปั้น อนุสาวรีย์ หรืออนุสรณ์อื่นๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่ความทรงจำของผู้เสียชีวิต อนุสาวรีย์มักใช้เพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ เช่นเดียวกับเหยื่อของภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาด และโศกนาฏกรรมอื่นๆ คำว่า "อนุสาวรีย์" มาจากคำภาษากรีก "kainos" ซึ่งแปลว่า "ใหม่" และ "taphos" " แปลว่า "หลุมศพ" มีการใช้ครั้งแรกในศตวรรษที่ 17 เพื่ออธิบายอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในลอนดอนเพื่อรำลึกถึงเหยื่อของภัยพิบัติครั้งใหญ่ในปี 1665 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คำนี้ก็ได้ถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายอนุสรณ์สถานที่คล้ายกันทั่วโลก

อนุสาวรีย์มีได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่อนุสาวรีย์หินเรียบง่ายไปจนถึงรูปปั้นและประติมากรรมอันวิจิตรบรรจง มักประดับด้วยสัญลักษณ์แห่งการไว้ทุกข์ เช่น ริบบิ้นสีดำหรือดอกไม้ และอาจมีจารึกหรือภาพแกะสลักที่ให้เกียรติความทรงจำของผู้ตาย อนุสาวรีย์บางแห่งตั้งอยู่ในที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะหรือจัตุรัสกลางเมือง ในขณะที่บางแห่งพบในสุสานหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งคือสุสานทหารนิรนามในสุสานแห่งชาติอาร์ลิงตันในสหรัฐอเมริกา อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ซากศพของทหารอเมริกันที่ไม่ปรากฏชื่อซึ่งเสียชีวิตในการสู้รบ และได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมงโดยกรมทหารราบที่ 3 ของกองทัพสหรัฐฯ อนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ได้แก่ Cenotaph ในลอนดอน ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหยื่อของสงครามโลกทั้งสองครั้ง และอนุสรณ์สถานทหารผ่านศึกเวียดนามในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่สมาชิกทหารอเมริกันมากกว่า 58,000 คนที่เสียชีวิตระหว่างสงครามเวียดนาม เป็นการเตือนใจอันทรงพลังถึงความเสียสละของผู้ที่เสียชีวิตเพื่อประเทศ ชุมชน และครอบครัวของพวกเขา สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นที่ทางกายภาพสำหรับการไว้ทุกข์และการไตร่ตรอง และช่วยรักษาความทรงจำของผู้ตายให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

Knowway.org ใช้คุกกี้เพื่อให้บริการที่ดีขึ้นแก่คุณ การใช้ Knowway.org แสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา สำหรับข้อมูลโดยละเอียด คุณสามารถอ่านข้อความ นโยบายคุกกี้ ของเรา close-policy