ทำความเข้าใจอาร์เซไนต์: ความเป็นพิษ แหล่งที่มา และผลกระทบต่อสุขภาพ
อาร์เซไนต์เป็นสารประกอบที่มีหน่วย AsO3 ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมกันของสารหนูและออกซิเจน สารประกอบเหล่านี้มักพบในสถานะออกซิเดชัน +3 ของสารหนู เป็นที่รู้กันว่าอาร์เซไนต์มีความเป็นพิษสูงและสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้หลายอย่าง รวมถึงการเปลี่ยนสีผิวหนัง ความเสียหายของเส้นประสาท และมะเร็ง
อาร์เซไนต์สามารถพบได้จากแหล่งต่างๆ รวมถึง:
1 แหล่งสะสมตามธรรมชาติ: อาร์เซไนต์สามารถพบได้ในแหล่งสะสมตามธรรมชาติของสารหนู เช่น ที่พบในเปลือกโลก
2 กระบวนการทางอุตสาหกรรม: อาร์เซไนต์สามารถผลิตเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการทางอุตสาหกรรมบางอย่าง เช่น การถลุงโลหะหรือการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
3 การไหลบ่าทางการเกษตร: อาร์เซไนต์สามารถพบได้ในการไหลบ่าทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีอื่นๆ
4 น้ำที่ปนเปื้อน: อาร์เซไนต์สามารถพบได้ในแหล่งน้ำที่ปนเปื้อน เช่น แหล่งน้ำที่ได้รับการปนเปื้อนจากของเสียทางอุตสาหกรรมหรือกิจกรรมการทำเหมืองแร่
อาร์เซไนต์สามารถมีผลกระทบหลายอย่างต่อสุขภาพของมนุษย์ รวมถึง:
1 การเปลี่ยนสีผิว: การได้รับสารอาร์เซไนต์เป็นเวลานานอาจทำให้สีผิวเปลี่ยนไป โดยเฉพาะที่มือและเท้า
2 ความเสียหายของเส้นประสาท: สารหนูสามารถทำลายเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการชา รู้สึกเสียวซ่า และอ่อนแรงในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
3 มะเร็ง: การได้รับสารอาร์เซไนต์ในระยะยาวมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งผิวหนังและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ปัญหาระบบทางเดินหายใจ: การสูดดมฝุ่นหรือควันอาร์เซไนต์อาจทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ เช่น การไอ หายใจมีเสียงวี๊ด และหายใจลำบาก
5 ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด: การสัมผัสกับสารอาร์เซไนต์เชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของปัญหาหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ตรวจพบอาร์เซไนต์ในร่างกายด้วยวิธีการต่างๆ มากมาย รวมไปถึง:
1 การตรวจเลือด: สามารถวัดระดับอาร์เซไนต์ในเลือดได้โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่าอะตอมมิกแอบซอร์พชันสเปกโทรสโกปี (AAS)
2 การทดสอบปัสสาวะ: สามารถตรวจพบสารอาร์เซไนต์ในปัสสาวะได้โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า gas chromatography-mass spectrometry (GC-MS)
3 การทดสอบเส้นผม: สามารถตรวจพบสารหนูในเส้นผมได้โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Inductionly Coupled Plasma Mass Spectrometry (ICP-MS)
4 การทดสอบเนื้อเยื่อ: สามารถตรวจพบสารหนูในเนื้อเยื่อ เช่น ผิวหนังและเล็บ โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า X-ray fluorescence (XRF) การรักษาพิษจากอาร์เซไนต์โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการใช้สารคีเลต เช่น ไดเมอร์คาโพรล หรือซัคซิเมอร์ เพื่อกำจัดสารหนู สารหนูออกจากร่างกาย ในกรณีที่รุนแรงอาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อติดตามและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น



