พลังและข้อผิดพลาดของคำสบถในภาษา
คำสบถหมายถึงการใช้คำหรือวลีที่มีความหมายเชิงความหมายเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย แต่ใช้เพื่อเพิ่มการเน้น การหยุดชั่วคราว หรือถ่ายทอดทัศนคติ คำหรือวลีเหล่านี้มักเรียกว่า "คำสบถ" เนื่องจากทำหน้าที่เป็นตัวเติมหรือเครื่องหมายวรรคตอนในการพูด
ตัวอย่างของคำสบถ ได้แก่:
* คำหยาบคาย (เช่น คำสบถ คำสาปแช่ง)
* คำเติม (เช่น "อืม " "like")
* เครื่องหมายวาทกรรม (เช่น "คุณรู้" "ฉันหมายถึง")
* คำอุทาน (เช่น "โอ้" "ว้าว")
คำหยาบคายสามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายในภาษา เช่น:
* เน้นประเด็นหรือความคิด
* แสดงอารมณ์หรือทัศนคติที่รุนแรง
* การเติมการหยุดชั่วคราวหรือช่องว่างในการพูด
* ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในหัวข้อหรือน้ำเสียง
อย่างไรก็ตามคำสบถยังอาจถูกมองว่าเป็นเชิงลบหรือน่ารังเกียจในบางบริบท และการใช้งานของพวกเขาอาจอยู่ภายใต้บรรทัดฐานทางสังคม และข้อห้าม ตัวอย่างเช่น คำหยาบคายมักถูกมองว่าไม่เหมาะสมในสภาพแวดล้อมที่เป็นทางการหรือในเชิงอาชีพ ในขณะที่เครื่องหมายวาทกรรม เช่น "อืม" และ "ชอบ" อาจถูกมองว่าไม่เป็นมืออาชีพหรือไม่บรรลุนิติภาวะ
โดยรวมแล้ว คำสบถเป็นแง่มุมที่ซับซ้อนและหลากหลายแง่มุมของภาษาที่สามารถใช้ได้ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ฟังก์ชั่นเชิงลบ ขึ้นอยู่กับบริบทและความตั้งใจของผู้พูด



