อาการปวดหลังมือ: สาเหตุและทางเลือกการรักษา
อาการปวดหลังมืออาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น:
1 การบาดเจ็บจากความเครียดซ้ำๆ: กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจับหรือการเคลื่อนไหวซ้ำๆ เช่น การพิมพ์หรือใช้เมาส์คอมพิวเตอร์ อาจทำให้เกิดการอักเสบและความเจ็บปวดในเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อของมือ
2 กลุ่มอาการอุโมงค์ carpal: ภาวะทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทค่ามัธยฐานซึ่งไหลลงมาที่แขนและเข้าสู่มือ ถูกบีบอัดหรือถูกบีบเนื่องจากการเคลื่อนไหวหรือการบาดเจ็บซ้ำๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวด ชา และรู้สึกเสียวซ่าที่หลังมือและนิ้วได้ 3. Tendinitis: การอักเสบของเส้นเอ็นซึ่งเชื่อมต่อกล้ามเนื้อกับกระดูก อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังมือได้
4 Tenosynovitis ของ De Quervain: ภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเอ็นบริเวณนิ้วหัวแม่มือของข้อมืออักเสบ ทำให้เกิดอาการปวดและตึงที่หลังมือและนิ้วโป้ง ปมประสาทซีสต์: ก้อนที่ไม่ใช่มะเร็งที่สามารถก่อตัวบนข้อต่อหรือเส้นเอ็นของมือ ทำให้เกิดความเจ็บปวดและไม่สบายตัว 6. โรคข้อเข่าเสื่อม: ภาวะเสื่อมที่ส่งผลต่อข้อต่อ รวมถึงข้อต่อที่อยู่ในมือ ทำให้เกิดอาการปวดและตึง 7. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์: โรคแพ้ภูมิตัวเองที่ทำให้เกิดการอักเสบและความเจ็บปวดในข้อต่อ รวมถึงโรคที่มือด้วย การกดทับเส้นประสาท: การกดทับเส้นประสาทที่คอหรือแขนอาจทำให้เกิดอาการปวด ชา และรู้สึกเสียวซ่าที่หลังมือ
9 การบาดเจ็บ: การชกโดยตรงที่หลังมือหรือการล้มลงบนมือที่เหยียดออกอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดและการบาดเจ็บได้10 ท่าทางหรือกลไกของร่างกายที่ไม่ดี: กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจับหรือการเคลื่อนไหวซ้ำๆ เช่น การพิมพ์หรือการใช้เมาส์คอมพิวเตอร์ อาจทำให้เกิดการอักเสบและความเจ็บปวดในเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อของมือ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์หากคุณมีอาการดื้อดึงหรือ อาการปวดหลังมืออย่างรุนแรง เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของภาวะที่ซ่อนอยู่ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์



