ทำความเข้าใจแนวคิดเรื่องสิ่งที่น่ารังเกียจในศาสนาและวัฒนธรรม
1. คำว่า "สิ่งที่น่ารังเกียจ" มาจากคำภาษาฮีบรู "shiqquwts" ซึ่งหมายถึงบางสิ่งที่น่าขยะแขยง เกลียดชัง หรือน่ารังเกียจ
2 ในพันธสัญญาเดิม คำนี้มักใช้เพื่ออธิบายการปฏิบัติและวัตถุบูชารูปเคารพ เช่น การบูชาเทพเจ้าเท็จ หรือการใช้รูปเคารพในพิธีกรรมทางศาสนา
3 พันธสัญญาใหม่ยังใช้คำว่า "สิ่งที่น่ารังเกียจ" เพื่ออธิบายการกระทำหรือพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นบาปหรือน่ารังเกียจ เช่น การรักร่วมเพศ (โรม 1:26-27) หรือการฆาตกรรม (วิวรณ์ 21:8)
4 ในเทววิทยาคริสเตียน สิ่งที่น่ารังเกียจถูกมองว่าเป็นการปฏิเสธพระประสงค์ของพระเจ้าและเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งนำไปสู่ความเสื่อมโทรมทางวิญญาณและศีลธรรม อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องสิ่งที่น่ารังเกียจไม่ได้จำกัดอยู่เพียงบริบททางศาสนาเท่านั้น และยังสามารถนำไปใช้กับปรากฏการณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมที่ถือว่าเป็นข้อห้ามหรือยอมรับไม่ได้ เช่น การกินเนื้อคน การเสียสละของมนุษย์ หรือรูปแบบอื่นๆ ของความรุนแรงและการแสวงประโยชน์ โดยสรุป คำว่า "สิ่งที่น่ารังเกียจ" ถูกใช้ทั้งในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่เพื่ออธิบายสิ่งที่ถือว่าน่ารังเกียจ เกลียดชัง หรือน่ารังเกียจ มักเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางศาสนาหรือพฤติกรรมที่ถูกมองว่าเป็นการปฏิเสธพระประสงค์ของพระเจ้า



