ทำความเข้าใจเรื่องการไฮแจ็กในการรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์
ในบริบทของความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ "การไฮแจ็ก" หมายถึงการกระทำเพื่อควบคุมระบบหรือกระบวนการโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสามารถทำได้โดยการหาประโยชน์จากช่องโหว่ในซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ หรือโดยการหลอกผู้ใช้ให้ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายหรือให้สิทธิ์เข้าถึงระบบของพวกเขา
เมื่อระบบหรือกระบวนการถูกไฮแจ็ก ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น รหัสผ่าน เครดิต หมายเลขบัตรหรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ พวกเขายังอาจสามารถใช้ระบบที่ถูกบุกรุกเพื่อโจมตีระบบหรือเครือข่ายอื่นเพิ่มเติมได้
ตัวอย่างทั่วไปของการไฮแจ็กได้แก่:
1 การไฮแจ็ก DNS (Domain Name System): สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ใช้ค้นหาที่อยู่เว็บไซต์ ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์หลอกลวงที่เลียนแบบเว็บไซต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้พวกเขาขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหรือติดตั้งมัลแวร์ได้
2 การไฮแจ็ก HTTP (Hypertext Transfer Protocol): สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีสกัดกั้นและแก้ไขการรับส่งข้อมูลระหว่างเบราว์เซอร์ของผู้ใช้และเว็บไซต์ ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์หลอกลวงหรือฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายลงในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้
3 การไฮแจ็ก SSL/TLS (Secure Sockets Layer/Transport Layer Security): สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีสกัดกั้นและแก้ไขการสื่อสารที่ปลอดภัยระหว่างเบราว์เซอร์ของผู้ใช้และเว็บไซต์ ผู้โจมตีสามารถขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น รหัสผ่านหรือหมายเลขบัตรเครดิต หรือแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายลงในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้
4 การไฮแจ็กเบราว์เซอร์: สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายบนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่เข้าควบคุมเว็บเบราว์เซอร์และเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์หลอกลวงหรือแสดงโฆษณาที่ไม่ต้องการ
5 การไฮแจ็กอีเมล: สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีเข้าควบคุมบัญชีอีเมลของผู้ใช้ และใช้บัญชีนั้นเพื่อส่งสแปมหรืออีเมลฟิชชิ่ง หรือเพื่อขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากผู้ติดต่อของผู้ใช้ โดยรวมแล้ว การไฮแจ็กอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ ดังที่สามารถทำได้ อนุญาตให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต และขัดขวางการทำงานปกติของระบบและเครือข่าย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบุคคลและองค์กรที่จะต้องดำเนินการเพื่อป้องกันตนเองจากการถูกไฮแจ็ก เช่น การใช้รหัสผ่านที่รัดกุม การปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ และการใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส



