ทำความเข้าใจสังสารวัฏ: วงจรแห่งความทุกข์และการเกิดใหม่ในศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู และศาสนาเชน
สังสารวัฏ (สันสกฤต: संसार) เป็นคำที่ใช้ในศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู และศาสนาเชน เพื่ออธิบายวัฏจักรแห่งความทุกข์และการเกิดใหม่ มักเรียกกันว่า "วงจรแห่งการดำรงอยู่" หรือ "วงล้อแห่งชีวิต" ในคำสอนของพุทธศาสนา สังสารวัฏถูกมองว่าเป็นวงจรแห่งความทุกข์ทรมานและความไม่รู้ที่เกิดขึ้นจากการผูกพันของเราและการระบุตัวตนกับตนเองและความปรารถนาของเราที่จะมีความสุข และความสุข ความผูกพันนี้ทำให้เราไปเกิดในภูมิแห่งการดำรงอยู่ ๖ ภูมิ คือ
1 นรก: แดนแห่งความทรมานและความเจ็บปวดอันแสนสาหัส2. ภูติผู้หิวโหย คือ สัตว์ที่ตัณหากินจนไม่เกิดความพอใจ3. สัตว์: สัตว์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยสัญชาตญาณและขาดความตระหนักรู้ในตนเอง มนุษย์ คือ สัตว์ที่ติดอยู่ในวัฏจักรแห่งทุกข์และอวิชชา5. อสูร (ไททัน): สัตว์ที่ถูกความริษยาและความโกรธครอบงำ เทพ (เทพ): สัตว์ที่ถูกครอบงำด้วยความเย่อหยิ่งและความสุข วัฏจักรแห่งสังสารวัฏนั้นคงอยู่ด้วยการกระทำและความตั้งใจของเราเอง และจะถูกทำลายได้ด้วยการปฏิบัติในมรรคมีองค์แปดและการฝึกฝนปัญญา ความประพฤติทางจริยธรรม และวินัยทางจิตเท่านั้น . เป้าหมายสูงสุดของคำสอนทางพุทธศาสนาคือการก้าวข้ามวงจรสังสารวัฏและบรรลุการตรัสรู้หรือนิพพาน ในศาสนาฮินดู สังสารวัฏถูกมองว่าเป็นวัฏจักรแห่งการเกิด การตาย และการเกิดใหม่ ซึ่งดวงวิญญาณ (อาตมัน) ติดอยู่ในโลกแห่งวัตถุ และอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม เป้าหมายของการปฏิบัติจิตวิญญาณของชาวฮินดูคือการปลดปล่อยจิตวิญญาณจากวัฏจักรของสังสารวัฏผ่านการตระหนักรู้ถึงตัวตน (อาตมัน) และการบรรลุโมกษะ หรือการหลุดพ้น ในศาสนาเชน สังสารวัฏถูกมองว่าเป็นวัฏจักรแห่งความทุกข์ทรมานและการเกิดใหม่ ซึ่งในศาสนาเชน วิญญาณ (จิวา) ติดอยู่ในโลกแห่งวัตถุและอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม เป้าหมายของการฝึกจิตวิญญาณแบบเชนคือการปลดปล่อยจิตวิญญาณจากวงจรสังสารวัฏผ่านการตระหนักรู้ถึงตัวตน (จิวะ) และการบรรลุโมกษะหรือการหลุดพ้น โดยรวมแล้ว สังสารวัฏเป็นแนวคิดหลักในพุทธศาสนา ศาสนาฮินดู และศาสนาเชน และ เน้นย้ำถึงธรรมชาติของการดำรงอยู่เป็นวัฏจักรและความจำเป็นในการฝึกปฏิบัติทางจิตวิญญาณเพื่อหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์และการเกิดใหม่



